top of page

น้ำมันปาล์ม เป็นภัยต่อสุขภาพจริงหรือ

เรามักจะได้ยินว่าน้ำมันปาล์มไม่ดี ควรหลีกเลี่ยง แต่จริง ๆ แล้วน้ำมันปาล์มเป็นน้ำมันที่นิยมนำมาปรุงอาหารเพราะทำให้อาหารอร่อย ไม่มีกลิ่นหืน อีกทั้งราคาย่อมเยา

น้ำมันปาล์มมีวิตามิน เอ ตามธรรมชาติ

น้ำมันปาล์ม มีสารแคโรทีนอยด์ตามธรรมชาติ ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนสารแคโรทีนอยด์ให้เป็นวิตามินเอที่มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยบำรุงสายตาเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ป้องกันอาการตาแห้ง จากงานวิจัยพบว่าสารแคโรทีนอยด์ยังสามารถส่งผ่านไปยังลูกทางน้ำนมอีกด้วย จึงเป็นสารจำเป็นสำหรับคุณแม่ที่ต้องให้นมบุตร นอกจากนี้ วิตามินเอ ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ

วิตามินอี ลดคอเลสเตอรอล ไขมันไม่อิ่มตัว

น้ำมันปาล์มอุดมด้วยวิตามิน อี โทโคไตรอินอล

นอกจากนี้น้ำมันปาล์มยังอุดมด้วยวิตามินอีโทโคไตรอินอล (Tocotrienols) จากธรรมชาติ ที่มีโครงสร้างพันธะคู่มากกว่า จึงสามารถแทรกอยู่ในผนังเซลล์ได้ดีกว่าและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีธรรมดาถึง 60 เท่า มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยลดคอเลสเตอรอลซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด อีกทั้งช่วยต่อต้านการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัวที่เป็นสาเหตุของอัมพาต ยังสามารถเข้าสู่เซลล์ผิวหนังได้ดีกว่า ทำให้ช่วยป้องกันผิวพรรณจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดดอันเป็นสาเหตุของความชรา และเข้าสู่เซลล์สมอง ช่วยป้องกันพิษของอนุมูลอิสระที่มีต่อระบบประสาท

ลดคอเลสเตอรอล

แม้ว่าน้ำมันปาล์มจะมีกรดไขมันอิ่มตัว SFAs อยู่ 43.7% แต่ก็มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวหรือ MUFAs อยู่มากถึง 43.2% ซึ่งสามารถเข้าไปลดระดับไขมันไม่ดี (LDL) หรือคอเลสเตอรอลตัวร้ายได้ ดังนั้นนอกจากน้ำมันปาล์มจะปราศจากคอเลสเตอรอลแล้ว ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้ายอีกด้วย

ไขมันอิ่มตัว LDL HDL

ปรุงอาหารได้อร่อย ไม่มีกลิ่นหืน

เพราะคุณสมบัติของกรดไขมันอิ่มตัวที่มีอยู่ ทำให้น้ำมันปาล์มสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 250°C  โดยที่กรดไขมันไม่แตกตัว ทำให้อาหารอร่อยไม่มีกลิ่นหืนของน้ำมันมาปะปนในอาหาร

bottom of page